จักขุวิญญาณวิบากเป็นอนันตรูปนิสสยปัจจัยกะสัมปฏิจฉันนวิบาก แต่เพราะไม่มีกัมมชจักขุนทรีย์ เป็นอินทริยปัจจัยให้ อกุสลเจตนาจึงไม่สามารถจะทำให้เกิดจักขุวิญญาณินทรียวิบากได้ จึงทำให้เกิดสัมปฏิจฉันนะวิบากที่หทยวัตถุ, โดยอกุสลเจตนาจึงยังให้เกิดวิตักกวิบากเพื่อยกสัมปยุตวิบากขึ้นสู่อารมณ์ ยังให้เกิดวิจารวิบากเพื่อแนบสัมปยุตตวิบากไว้กับอารมณ์ ยังให้เกิดอธิโมกขวิบากเพื่อตัดใจสินใจทำกิจในอารมณ์ ทั้ง 3 ดวงนี้ ให้เกิดขึ้นมาเพื่อให้สัมปฏิจฉันนวิบากปรารภและอยู่กับอารมณ์ได้โดยไม่ต้องอาศัยกัมมชจักขุนทรีย์.
จะเห็นได้ว่า สัมปฏิจฉันนะ ต้องมีปกิณณกะ 3 เกิดด้วย เพื่อยก/ครวญ/ตัดสินใจอารมณ์, เพราะไม่มีกัมมชจักขุนทรียวัตถุปุเรชาตนิสสยะให้แก่จักขุวิญาณเกิดต่อ, มีแต่หทยวัตถุที่ไม่เป็นอินทรีย์.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
รับตอบปัญหาธรรมะ ตามพระไตรปิฏก อรรถกถา ฏีกา
ท่านสอบถาม/แสดงความคิดเห็น/บอกข้อบกพร่องของบทความได้ที่ facebook: ตอบปัญหาธรรมะลึกซึ้ง หรือ ช่องตอบกลับข้างล่างนี้.