วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

วิธีทำงานร่วมกัน ไม่ให้เกิดความบาดหมาง

การทำงานร่วมกันนั้น แต่ละคนจะมีข้อจำกัดของตนเอง ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของเพื่อนร่วมงานที่ต่างกัน ซึ่งผู้บริหารรับผิดชอบดูแล #ปัญหา ทั้งหลายนี้อยู่ โดยผู้ใต้บังคับบัญชา สามารถต่อรองได้ใน #บางโอกาส แต่ต้อง #นับข้อจำกัด ของคนเองที่ยื่นต่อผู้บริหาร ไม่ให้มากจนเกินไป และไม่เอาแต่ใจของตนเองจนเกินไป เช่น ทำท่าทีตึงตัง, หรือ ไปนินทากันลับหลัง

สิ่งที่ดีที่สุด คือ พยายามพูดให้เกิดความสามัคคี พูดให้สมาชิกเพื่อนร่วมงาน ทุกคน เข้าใจซึ่งกันและกัน เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน มีรอยยิ้มให้กันอย่างจริงใจ สบายใจ มีความสุข เหมือนคนในครอบครัว

ส่วนนี้ ผู้บริหารมักจะทำได้อยู่แล้ว แต่สมาชิกคนอื่นๆ อาจจะยังทำไม่ได้ อาจจะยังมีการใส่อารมณ์ไปบ้างในขณะที่เกิดปัญหา ก็เป็นหน้าที่ของสมาชิกผู้นั้น ที่จะต้องปรับปรุงพัฒนาตัวเอง ให้ก้าวไปสู่ความเป็น #ผู้ใหญ่ ในระดับเดียวกับ #ผู้บริหาร และก็เป็นหน้าที่ของเพื่อนสมาชิกท่านอื่นๆ ในการให้คำแนะนำ ประคับประคองพัฒนาร่วมกันไป ด้วยความสามัคคี เห็นอกเห็นใจ แนะนำซึ่งกันและกันอย่างตรงไปตรงมา

ในสาราณียธรรม 6 (วิธีทำให้คิดถึงกันได้อย่างสบายใจ) นั้น ท่านบอกว่า ความเข้าใจซึ่งกันและกัน (ทิฏฐิสามัญญตา) เป็นหัวหน้าของสาราณียธรรมข้อที่เหลือ ซึ่งการจะเข้าใจซึ่งกันและกันได้นั้น ก็จะต้องมีกติกาที่ตกลงกันด้วยดีในที่ประชุม (สีลสามัญญตา) ไม่ใช่ไปคุยกันต่อนอกรอบ แต่จะต้องคุยทุกอย่างในที่ประชุมให้จบให้เคลีย ก็จะทำให้เกิด สาธารณโภคี (ได้ของ/ได้งาน แตกต่างกันตามฐานะก็จริง แต่เสมอกันเพราะตกลงกันเคลียในที่ประชุมแล้ว) เมตตากายกรรม (ทำงานร่วมกันเพื่อความรักสามัคคี) เมตตาวจีกรรม (พูดถึงกันเพื่อความรักสามัคคี) เมตตามโนกรรม (คิดถึงกันเพื่อความรักสามัคคี)

จงอย่าลืมว่า ข้อเสีย ข้อจำกัดของคุณก็มี และนั่นเป็นสิ่งที่เพื่อนร่วมงานทุกคนแบกรับแทนคุณอยู่ จงสงสารเห็นใจเพื่อนร่วมงานด้วย และคิด ทำ พูด ด้วยความเห็นใจ การพูดถึงปัญหาต่างๆ จึงจะนุ่มนวล มีน้ำเสียงไพเราะน่าฟัง และไม่นำมาซึ่งความแตกแยก บาดหมาง ต่อกันและกัน

วิธีเอากรรมฐานของตัวเอง มาเป็นบาทฐานในการเรียนบาลี

 ถ้าท่านที่ศึกษาพระไตรปิฎก ตระหนักในการท่องจำพระสูตรบาลีซ้ำๆ ซากๆ การเรียนนี้ ก็จะสำเร็จได้ไว และได้ผลงอกงามมาก.
เช่น อาจารย์สามารถให้การบ้านว่า ท่านทำกรรมฐานสูตรไหนอยู่ ก็ให้ไปท่องจำบาลีสูตรนั้น (ถ้าทำกรรมฐาน ก็ควรจะท่องได้อยู่แล้ว?) ให้ชำนาญ และให้ฝึกอธิบายตามหลักสังวรรณนาสูตรเดิมๆนั้นแหละ ทุกวัน จนจบหลักสูตร.
เช่น ทำอานาปานัสสติในมหาสติปัฏฐานสูตรอยู่ ก็ต้องรู้ว่า กถํ ใช้สังวรรณนาอะไร? จ ใช้สังวรรณนาอะไร? วา ใช้สังวรรณนาอะไร? อิติ ใช้สังวรรณนาอะไร? กาเย กับ กายสฺมึ วิภัต ใช้บ่งบอกอะไร? วา หลัง อิติ ใช้คั่นอะไร? วา ปน ใช้แยกอะไร? จ หลัง วา ปน ใช้รวบอะไร? ทำไมเดี๋ยวใช้วา เดี๋ยวใช้ จ? 
 นี้เป็นตัวอย่างคำถาม ที่คนทำอานาปานัสสติ เรียนบาลี เรียนสังวรรณนา ควรถามขึ้นได้เอง เพราะกรรมฐานของตัวเอง ถ้าไม่ชำนาญไม่แตกฉาน เรียนสังวรรณนาแล้ว ก็ยังไม่สามารถเอามาอธิบายกรรมฐานของตัวเองได้ นิรุตติปฏิสัมภิทา (แม้ที่ไม่ใช่ของปฏิสัมภิทัปปัตโต) ก็คงยากจะบรรลุ ครั

การทำบุญบาปเหมือนสะสม exp เลเวลในเกม แต่เกมชีวิตมันมีลดเลเวลได้

 การทำบุญบาปเหมือนสะสม exp เลเวลในเกม แต่เกมชีวิตมันมีลดเลเวลได้ ถ้าไม่ทำครบขั้นตอนแบบพระพุทธเจ้าบอกสูตรไว้ คือ ดีแล้วกลับมาชั่วทีหลัง ชั่วแ...