การไม่ทำร้ายผู้อื่น ต้องเริ่มที่ การห้ามแม้แต่คิดร้าย ครับ,
ซึ่งต้องเริ่มที่การใช้วิธีฝึกตนเองให้ปกติเป็นคนเห็นภาพรวมของผลเสียในการมุ่งร้าย,
และเห็นผลดีในการไม่มุ่งร้าย.
การที่คนอื่นไม่เห็นเวลาที่เราทำร้ายผู้อื่น, หรือการได้ไปสวรรค์ เป็นแค่ผลพลอยได้,
ไม่ใช่วิธีการหลักในการงดเว้นทำร้าย, ใช้มาขัดเกลากิเลสได้ ในจังหว่ะหนึ่งๆ ที่สมควรเท่านั้น.
เพราะถ้าคิดกลัวคนเห็นอย่างเดียว เวลาไม่มีใครเห็น
ก็จะมีข้ออ้างกะตัวเองว่า "ไม่มีใครเห็น ไม่เป็นไร,
จะทิ้งขยะในที่สาธารณะก็ทิ้งได้".
เช่นนี้ ตบะที่บำเพ็ญมา ก็จะถูกกิเลส ทำลายไปนะครับ. หรือ ถ้าหวังสวรรค์อย่างเดียว ก็จะลืมเลือนเป้าหมายคือพระนิพพานไป พลาดจากบรมสุขไป เป็นต้น นี้คือตัวอย่างผลเสียของการมุ่งแต่แง่ดีแง่เสียอันหนึ่งๆ มาขัดเกลากิเลส ครับ.
ฉะนั้น ในพระไตรปิฎก แม้จะแสดงวิธีไว้มากมาย ในการห้ามกิเลส,
แต่ในอรรถกถา ท่านก็จะโฟกัสไปที่ การเห็นผลเสีย
และผลดี ในภาพรวม เป็นหลัก ครับ.
ไม่ใช่โฟกัสไปที่ผลเสีย หรือ ผลดี แค่เฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่ง,
อันนั้น จะทำให้เกิดอคติ จากกิเลสตัวอื่นมาแทนได้.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
รับตอบปัญหาธรรมะ ตามพระไตรปิฏก อรรถกถา ฏีกา
ท่านสอบถาม/แสดงความคิดเห็น/บอกข้อบกพร่องของบทความได้ที่ facebook: ตอบปัญหาธรรมะลึกซึ้ง หรือ ช่องตอบกลับข้างล่างนี้.