วันพุธที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2563

ที่มาของคำว่า อริยสัจ ในธัมมจักกัปปวัตตนสูตร เกี่ยวข้องกับลักขณสูตร อย่างไร? (#วิธีสวดธรรมจักรอย่างเข้าใจ1)

เรื่องมหาปุริสลักษณะ ในลักขณสูตร ซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสไว้ โดยนำมาจากคัมภีร์พระเวทของพราหมณ์นี้ ในอรรถกถาทั้งหลายอธิบายว่า "พระอนาคามีพรหมยุคพระพุทธเจ้ากัสสปะ ลงมาบอกมาหาปุริสลักษณะกับฤๅษีไว้ เพื่อให้ทราบเวลาพระพุทธเจ้าเกิดขึ้น" ตอนที่บอกอย่างนี้นั้นไม่มีใครบรรลุ.   ถามว่า ฤๅษีที่ฟังคือใคร? ตอบว่า ฤๅษีคือ ชนชาวอริยะที่ออกบวชเข้าป่าแล้วทำฌานตามคำสอนของพระพรหม ในอรรถกถาหลายแห่งกล่าวว่า เมื่อแก่ตัวคนสมัยนั้นจะออกบวชฤๅษีกัน แล้วทำฌาน เพื่อที่จะได้ไปอยู่กับพระพรหม บนพรหมโลก ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับผู้ทำฌานเท่านั้น จึงจะไปเกิดได้.
ทีนี้ฤๅษีชาวอริยะนี้ ก็เลยเรียกตัวเองว่า พราหมณ์ แปลว่า "ลูกพระพรหม (เพราะเกิดจากคำสั่งสอนจากพระโอษฐ์ของอนาคามีพรหม)".  เราจะเจอคำนี้ได้ในพระไตรปิฎกและอรรถกถาหลายแห่ง หรือแม้แต่นักเรียนบาลีเอง ก็จะต้องเคยเรียนคำว่า พราหมณ์ มาจากโคตรตัทธิต แปลว่า เหล่ากอแห่งพระพรหม.
พวกปัญจวัคคีย์พราหมณ์ จึงรู้กันว่า อริยสัจ นั้นแปลว่า วาจาสัตย์ที่ฤาษีชาวอริยะได้เรียนจากพระพรหม. เพียงแต่เขาไม่รู้ว่า วาจาสัตย์นั้น เอามาใช้อย่างไรจึงจะบรรลุ และเนื่องจากฤาษีที่รับตำรามาจากอนาคามีพรหมก็ไม่ได้บรรลุมรคผล,  พอปุถุชนบอกต่อๆกันมาเป็นหลายพันปี (นักประวัติศาสตร์โลกกล่าวว่า ตำราพราหมณ์มีอายุไม่ต่ำกว่า 5000 ปี) ตำราพราหมณ์ก็ยิ่งเลอะเลือนถึงขั้นมีคาถาอาคม (อาถัพพนเวท).
เพราะเหตุนี้แหละ  พระปัญจวัคคีย์จึงรู้จักคำว่าอริยสัจทันที โดยที่ในธัมมจักกัปปวัตตนสูตรไม่ต้องอธิบายความไว้เลย. เพราะพระปัญจวัคคีย์คือพราหมณ์ที่ออกบวชมาก่อน ก็เพื่อติดตามดูแลพระโพธิสัตว์ให้บรรลุเป็นพระพุทธเจ้า แน่นอนว่าในระหว่างนั้นท่านก็ต้องทำฌานของพวกฤาษี รวมถึงได้รับการอบรมสั่งสอนศีลสมาธิจากพระโพธิสัตว์ด้วย ซึ่งก็คือทำมรรคมีองค์ 7 (เว้นสัมมาทิฏฐิ) มาก่อนนั่นเอง.
ส่วนพวกเรานั้น ส่วนใหญ่ไม่อาจเข้าใจคำว่าอริยสัจทันทีแบบพระปัญจวัคคีย์นั้นได้. จริงๆก็มีวิธีจะเข้าใจ คือ พวกเราก็ต้องท่องจำ พระสูตรและอรรถกถาหลายแห่ง กว่าจะเข้าใจเรื่องทั้งหมดนี้ได้. ซึ่งวัฒนธรรมนี้เริ่มสาบสูญไปจากไทยเมื่อร้อยปีที่แล้ว ในยุคที่ไทยมีสงครามต่อเนื่องยาวนาน. ทั้งๆที่จริงๆพระวินัยบังคับให้ต้องท่องจำเพิ่มขึ้นตามวัยด้วย แต่เพราะสงคราม วัฒนธรรมนี้เลยเลื่อนหายไป. เราในฐานะพุทธบริษัทจึงต้องร่วมมือกันฟื้นฟูขึ้นมาใหม่.
และนี่จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลว่า ทำไมเราฟังธัมมจักกัปปวัตตนสูตรแล้วไม่บรรลุทันที เพราะแค่ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร เราก็เอาบาลีมาหมุนนัยตามเนตติปกรณ์ไม่เป็นแล้ว, อย่างนี้เราจะไปมีกำลังใจที่ไหนในการจะท่องจำพระไตรปิฎกและอรรถกถากันเล่า? ฉะนั้น ถ้าคนเรียนอภิธรรมควรจะต้องทำสมถะให้เห็นสภาวะได้ฉันใด, คนเรียนบาลีก็ควรจะต้องท่องจำแล้วแยกแยะพระสูตร ที่เทสนาไว้เป็นบาลี ออกเป็นบท 12 แล้วเข้าวิจัยด้วยหาระ 16  ใช้นยะ 5 นำอรรถะออกมาจากพระสูตรให้ได้ ฉันนั้นเหมือนกัน.
การทำสมถะตามตำรา การทรงจำพระบาลีตามหลักเนตติปกรณ์,  ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ประเทศไทยขาดแคลนและต้องพัฒนาอย่างเร่งด่วน. และสิ่งนี้ไม่ใช่แค่หน้าที่ของมหาเปรียญ, แต่พุทธบริษัทสามารถร่วมด้วยช่วยกันคนละไม้คนละมือได้  ด้วยการท่องจำพระสูตรทั้งบาลีและแปลด้วยอย่างเข้าใจ แล้วอัดเผยแพร่สรรเสริญคุณค่าของการสวดมนต์ด้วยความเข้าใจและนำมาใช้ได้จริง #ตามหลักเนตติปกรณ์. เมื่อเราพากันทำอย่างนี้ จิตของพุทธบริษัทก็จะน้อมไปในการเข้าใจพระบาลีและนำมาใช้, ไม่ใช่เพียงแต่สวดโดยที่ไม่รู้ความหมาย. เมื่อทำอย่างนี้ ปริยัติศาสนาก็จะตั้งมั่น, แล้วต่อไปปฏิสัมภิทามรรคจะเป็นตำราที่อ่านง่ายและคนนิยมเรียนมาก อภิธรรมก็เช่นกัน เพราะพอรู้หลักเนตติปกรณ์แล้ว ตำราเหล่านี้เรียนง่ายๆ ใช้ปฏิบัติได้ครบวงจร แล้วยังเอาไปทำความเข้าใจพระสูตรได้อย่างละเอียดมากๆ อีกด้วย.
อนึ่ง คนที่สามารถเริ่มบัญญัติอริยสัจให้คนอื่นบรรลุได้ มีเฉพาะพระพุทธเจ้าเป็นคนแรกของยุคเท่านั้น.
แต่อยากให้มองมุมนี้ด้วยว่า เป็นไปไม่ได้ที่พระอนาคามีอริยะ จะกล่าว "อริยสัจ" ไม่ได้เลย, เช่นเดียวกับพระปัจเจกอริยะ เพราะท่านเหล่านี้ไม่ได้เป็นใบ้. #แต่ที่ท่านไม่อาจทำให้คนอื่นบรรลุได้ เพราะท่าน #ไม่มีความสามารถบัญญัติ คำที่ทำให้คนอื่นบรรลุได้ (ขุ.ปฏิ.อ.) เนื่องจากการจะรู้คำที่เหมาะสมแก่คนอื่นจะต้องสะสมบารมีร่วมกันมายาวนานมาก และเมื่อคนพวกนั้นไม่ได้สั่งสมบารมีมาเพื่อบรรลุกับท่านเขาก็จะไม่บรรลุเมื่อฟังธรรมจากปากพระปัจเจกอริยะ เป็นต้น (ขุ.อปทาน).
กล่าวง่ายๆ คือ พูดเหตุผลได้ รู้ทุกข์สมุทัยนิโรธมรรค แต่พูดแล้วคนฟังไม่บรรลุ ก็ไม่เป็นอริยสัจนั่นเอง.
สรุป1 อริยสัจ คือ #คำของฤๅษี ใน #แคว้นของชาวอริยะ (อารยัน) ที่ได้ฟังมหาปุริสลักษณะ #เป็นต้น จากปากของพระพรหม. ฤๅษีจึงเรียกตัวเองว่า พราหมณ์. เหตุที่ในอรรถกถากล่าวถึงแต่มหาปุริสลักษณะ แต่ผมใช้คำว่าเป็นต้น เพราะเรื่องวงจรโลกพังโลกเกิดใหม่ ที่กล่าวไว้ในพระสูตรว่า สังวัฏฏกัปป์วิวัฏฏกัปป์ เป็นต้น ก็มาในพระเวทเช่นกัน ครับ. นั่นแสดงว่า พระพรหมไม่ได้บอกแค่มหาปุริสลักษณะ, เพียงแต่ว่า ฤๅษีไม่มีความสามารถจะเข้าใจได้ทั้งหมด และพระอนาคามีต่างยุค ก็ไม่มีความสามารถจะแสดงอริยสัจให้คนอื่นบรรลุได้ ซึ่งน่าจะมาจากหลายสาเหตุ.
สรุป2 การทำสมถะตามตำรา การทรงจำพระบาลีตามหลักเนตติปกรณ์,  ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ประเทศไทยขาดแคลนและต้องพัฒนาอย่างเร่งด่วน.


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รับตอบปัญหาธรรมะ ตามพระไตรปิฏก อรรถกถา ฏีกา
ท่านสอบถาม/แสดงความคิดเห็น/บอกข้อบกพร่องของบทความได้ที่ facebook: ตอบปัญหาธรรมะลึกซึ้ง หรือ ช่องตอบกลับข้างล่างนี้.

ยุคนี้เบาแล้ว

ยุคนี้เบาแล้ว ย้อนไปก่อนจะมีพระพุทธเจ้า  ดูประวัติศาสตร์โลกก็ได้โหดร้ายขนาดไหน, เดี๋ยวพอหมดยุคของพระพุทธเจ้านะ  โคตรหนักแน่นอน 😊  ไม่งั้นจะ...