สังขตธรรม คือ ปฏิจจสมุปบาท.
ปฏิจจสมุปบาท คือ ปรมัตถธรรม.
วิชชมานธรรม คือ ปรมัตถธรรม.
อวิชชมานธรรม คือ บัญญัติ.
กาลมีอดีตเป็นต้น คือ อัตถบัญญัติ.
อุปปันนธรรม คือ วิชชมานธรรม.
อนุปปันนธรรม คือ อวิชชมานธรรม.
อุปปันนธรรม มี 3 อย่าง คือ อตีตอุปปันนธรรม, อนาคตอุปปันนธรรม, และปัจจอุปปันนนธรรม (ปัจจุปปันนธรรม).
ดังนั้น:
คำว่า อุปปันนธรรม คือ วิชชมานบัญญัติ.
คำว่า ปัจจ คือ อวิชฺชมานบัญญัติ.
คำว่า ปัจจุปปันนธรรมเป็นต้น คือ อวิชชมาเนนวิชชมานบัญญัติ.
คำนี้ตรงกับในอรรถกถาธัมมสังคณีที่ว่า "ไม่มีสังขตธรรมอะไรที่ไม่หยั่งลงในกาล 3".
พอดีไปที่สำนักเรียนแห่งหนึ่ง ท่านอาจารย์สอนดีมาก แต่ตรงนี้ ท่านไปกล่าวว่า "อดีตอารมณ์ เป็นปรมัตถ์ แต่ไม่มีอยู่จริง". น่าจะเป็นเพราะท่านรู้อภิธรรม แต่ยังไม่ชำนาญพระบาลี.