วันอังคารที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2562

อดีตธรรมอุปปันนธรรมเป็นปรมัตถ์ มีอยู่จริง แต่อดีตกาลเป็นบัญญัติ.

สังขตธรรม คือ ปฏิจจสมุปบาท.
ปฏิจจสมุปบาท คือ ปรมัตถธรรม.
วิชชมานธรรม  คือ ปรมัตถธรรม.
อวิชชมานธรรม คือ บัญญัติ.
กาลมีอดีตเป็นต้น คือ อัตถบัญญัติ.
อุปปันนธรรม คือ วิชชมานธรรม.
อนุปปันนธรรม คือ อวิชชมานธรรม.
อุปปันนธรรม มี 3 อย่าง คือ อตีตอุปปันนธรรม, อนาคตอุปปันนธรรม, และปัจจอุปปันนนธรรม (ปัจจุปปันนธรรม).
ดังนั้น:
คำว่า อุปปันนธรรม คือ วิชชมานบัญญัติ.
คำว่า ปัจจ คือ อวิชฺชมานบัญญัติ.
คำว่า ปัจจุปปันนธรรมเป็นต้น คือ อวิชชมาเนนวิชชมานบัญญัติ.
คำนี้ตรงกับในอรรถกถาธัมมสังคณีที่ว่า "ไม่มีสังขตธรรมอะไรที่ไม่หยั่งลงในกาล 3".

พอดีไปที่สำนักเรียนแห่งหนึ่ง ท่านอาจารย์สอนดีมาก แต่ตรงนี้ ท่านไปกล่าวว่า "อดีตอารมณ์ เป็นปรมัตถ์ แต่ไม่มีอยู่จริง". น่าจะเป็นเพราะท่านรู้อภิธรรม แต่ยังไม่ชำนาญพระบาลี.