วันพุธที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2564

นิพพานเมืองแก้ว คือ อะไร?

ตัณหาสร้างภพอย่างไร?

อยากให้มีต่อไป ไม่อยากให้มีต่อไป อยากบ้าง ไม่อยากบ้างที่จะสัมผัสทางตาหูจมูกลิ้นกายใจ ไม่สิ้นสุด.

อยากให้มีเราอยู่ในเมือง ไม่อยากให้มีเราเกิดเป็นมนุษย์ อยากให้อยู่ถาวรไม่สิ้นสุด

แต่เมืองที่เห็น ก็เป็นขันธ์ 5 เกิดดับอย่างรวดเร็ว ล้านๆ ครั้งในเสี้ยววินาที.

ไม่มีเมือง หรือ สิ่งใดในเมือง ที่จะสามารถอยู่ได้ชั่วกัลปวาศาล เพราะเหตุปัจจัยเกิดดับมากมายอย่างรวดเร็ว ขันธ์ทั้งหมด ก็ย่อมเกิดดับไปตามปัจจัยของตนๆ อย่างรวดเร็วเช่นกัน.

นี่จึงเป็นเหตุว่า ทำไมจึงต้องเห็นนามรูปเกิดับเป็นขณะล้านๆครั้งในเสี้ยววินาที ในอุทยัพพยญาณ ก็เพื่อให้เห็นธรรมตามเป็นจริงนั่นเอง ครับ.



วันพุธที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2564

นิมิตและอนุพยัญชนะ แทนที่ด้วยปฏิภาคนิมิต และทำลายด้วยอนิมิตนิพพาน

นิมิต คือสิ่งที่จิตรับรู้ 

ถ้ารับรู้นิมิตอนุพยัญชนะว่า เที่ยง สุข สวย ก้อนอัตตา อันนี้ อกุศล.

ถ้ารับรู้นิมิตอนุพยัญชนะว่า จะทำบุญ อย่างนี้ เป็นกุศลที่ยังมีอกุศลเกิดสลับได้อยู่.

ถ้ารับรู้นิมิตอนุพยัญชนะว่า เป็นกามคุณ 5 แล้วทิ้งไปรู้ปฏิภาคนิมิตแทน อย่างนี้เป็นกุศลที่มีกำลังมาก แต่ยัฃมีอกุศลเกิดเมื่อเสื่อมได้อยู่.


ถ้ารับรู้เป็นก้อนๆ เช่น "คน" เป็นเส้นๆ เช่น "คนคิด 1 วินาที อย่างนี้" ไม่เป็นวิปัสสนา. ตัณหาทิฏฐิมานะ เหล่านี้แหละ ที่เกิดสลับกุศลทุกประเภท แม้ออกจากฌานที่มีกำลังมาแล้ว ก็เกิดทันที เว้นแต่จะมีวิปัสสนาที่มีกำลังเพียงพอ.

แต่ถ้าสามารถแยกแยะกลุ่มก้อน ตัดท่อนเส้นสายชีวิต เป็นขณะล้านๆครั้งในเสี้ยววินาที แบบในรูปภาพจากคลิปข้างต้นด้วยตาปัญญา ทำจนชำนาญ จึงจะสามารถเห็นตัณหาทิฐิมานะนั้นได้ นี่จึงจะเป็นโอกาสที่จะเป็นกุศลต่อเนื่องจนถึงพระอรหัต.

วันเสาร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2564

ควรมีพรหมวิหาร ก่อนแยกแยะเดียรถีย์

พุทธเรียกทุกคนทั้งในและนอกศาสนาว่า "สัตว์" แปลอ้อมๆได้ว่า "#ผู้ที่ควรได้รับความปรารถนาดีทุกอย่าง 🥰 ความช่วยเหลือยามทุกข์ 🫂 ความร่วมยินดีในสุข 🏆 ความเห็นอกเห็นใจ ความเข้าใจตามความจริง (พรหมวิหาร 4)" ครับ. ก่อนจะแยกกันเป็นลัทธิ  ให้ทำจิตให้เสมอกันแบบนี้ก่อนครับ ไม่อย่างงั้นแยกหมู่แล้วโลกร้อน ทะเลาะกัน แยกแล้วไม่คุยกันด้วยเมตตา.😅

วันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2564

วิธีแปลโยนิโสมนสิการ ให้ได้องค์ธรรมและบาลี

โยนิโสมนสิการ แปล บาลีตาม ฏีกา หรือ องค์ธรรมอภิธรรม จะเข้าใจง่ายครับ แปลว่า #่ใช้ข้อปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมเป็นปัจจัยทำการน้อมอารมณ์มาใส่ใจ. อโยนิโสมนสการ คือ #น้อมอารมณ์มาใส่ใจโดยไม่ใช้ข้อปฏิบัติธรรมเป็นปัจจัย. ตัวอย่างเช่น มโนทวาราวัชชนะรับสีมาแล้ว เป็นอนันตรูปนิสสยปัจจัยให้ชวนะ มนสิการอารมณ์นั้นต่อโดยใช้ความเข้าใจที่สมควรแก่ธรรม(สัมมาทิฏฐิเจตสิกเป็นต้น)ว่า "เป็นสีไม่เที่ยงเกิดดับ" เป็นต้น. แต่ถ้าข้อปฏิบัติไม่สมควรแก่ธรรมเป็นปัจจัยให้อโยนิโสมนสิการชวนะเกิด ก็มนสิการอารมณ์นั้นต่อโดยใช้ความเข้าใจผิดความไม่รู้(อวิชชา ทิฏฐุปาทาน เป็นต้น)ว่า "เป็นก้อนเราเที่ยงแท้" เป็นต้น.

วันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2564

อยากเป็นผู้รู้ ผิดก็มี ถูกก็มี

ตราบเท่าที่ยังไม่เป็นพระอรหันต์ใครก็มีความอยากที่จะเป็นผู้รู้ทั้งนั้นครับ. แม้แต่พระอรหันต์ ไม่มีความอยากยึดมั่นถือมั่นแล้ว ก็ยังมีธัมมฉันทะ อยากทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่หมู่สัตว์ เช่นพระอรหันตเถระในมหาโคสิงคสาลสูตร ก็อยากจะไปฟังธรรมจากพระสารีบุตร. เพราะฉะนั้นเป็นสภาวะที่ละเอียดไม่ใช่จะตัดสินกันได้ง่ายๆครับ ว่าอันไหนเป็นความอยากได้ตัณหาควรละ และอันไหนเป็นความอยากด้วยกุศลฉันทะ ควรเจริญ. แค่เขาน้อมมาในกุศลได้ก็จัดว่าดีแล้วน่าอนุโมทนา.😊🙏

วันอังคารที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2564

ศึกษาพระวินัยจากการอ่านอย่างไร ไม่ให้เป็นวินัยฉลาดแกมโกง

อ่านพระวินัยปิฎกอย่างไร ไม่ให้เป็นคนฉลาดแกมโกง

ในกรณีที่ศึกษาพระวินัยปิฎกแปลหรือบาลี ก่อนการปฏิบัติ ควรศึกษาหลักของผู้โจทก์และผู้ถูกโจทก์ก่อนเป็นอันดับแรก คู่ไปกับอินทรียสังวรทางทวาร 6 สาราณียธรรม 6 สัมมาวาจา 4 ในมหาศีลแห่งสามัญญผลสูตร.

ทั้งนี้เพื่อที่จะสำรวมสังวรทวาร ไม่ก้าวล่วงสำนักนู้นสำนักนี้ทางกายวาจา ด้วยคำพูดที่ไม่จริง (เห็นอะไรก็กลัวผิดวินัยไปซะหมด). เพราะคนสมัยนี้จะโตมาในวัฒนธรรมที่ฟรีสปีช คืออยากจะพูดอะไรก็ได้ ไม่รู้จักประเมินความสามารถตัวเองและคิดให้ดีก่อนจะพูด, และยุคนี้เรียนแบบเป็ด คือ เรียนข้ามๆ รวบรัด ไม่ได้ตามลำดับทรงจำแบบมุขปาฐะ ซึ่งวิธีเรียนลวกๆนี้ ทำให้ความรู้ขาดตกหล่นเยอะมาก. 

แต่ถ้าทรงจำ "องค์ของโจทก์และผู้ถูกโจทก์" อย่างเข้าใจ ทรงจำสาราณียธรรมและสัมมาวาจาได้ ก็จะไม่กล้าตำหนิคนนู้นคนนี้ง่ายๆ ด้วยวินัยที่เพิ่งเรียนมาไม่ได้รู้จริง แต่จะมีความเคารพมีเมตตาไปก่อน (ไม่ใช่เห็นอะไรก็ขวางหูขวางตา เห็นใครก็ผิดวินัยไปหมด อย่างนี้เป็นการปฏิบัติไม่เคารพกถาวัตถุสูตร เพราะจ้องแต่จะเพ่งโทษคนอื่น ไม่เห็นจิตที่ฟุ้งซ่านของตน).

แต่ถ้าปฏิบัติวินัยตามครูบาอาจารย์ที่มีความรู้ความสามารถ เช่น พะอ็อกตอยะสยาดอ ก็ไม่จำเป็นต้องศึกษาหลักผู้โจทก์และผู้ถูกโจทก์ตั้งแต่แรกครับ เพราะสามารถสังเกตจากสภาพแวดล้อมได้ สังเกตจิตได้ รวมถึงสมาธิจะช่วยทำให้รักษาจิตได้ดี.

วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2564

แนวทางพิจารณากรณีบุพพการีกับเครื่องช่วยชีวิต

#เจตนาฆ่า กับ #เจตนาไม่ช่วยต่อ ไม่เหมือนกันครับ. คนที่กำลังจับมือคนตกตึก แต่ไม่ไหวเลยปล่อยมือ ไม่ได้คิดจะฆ่าเขาเลย แค่ช่วยไม่ไหวก็ปล่อยมือ. เขาก็บอกอยู่ว่าเครื่องช่วยชีวิต หมายความว่าคนคนนี้ต้องตายอยู่แล้ว แต่เครื่องมาช่วยไว้. 

แต่ก็ต้องมนสิการดีๆ เพราะถ้ามนสิการไม่เก่งตั้งแต่แรก อาจจะเดือดร้อนใจทีหลังได้. ถ้าคิดว่ามนสิการไม่เป็น, ควรมอบฉันทะเรื่องพ่อแม่ให้คนอื่นตัดสินใจแทนได้ครับ ไม่ต้องตัดสินใจเอง ช่วยตัดกังวลทีหลังไปได้. 

จริงๆโรงพยาบาลควรจะมีการฝึกให้หมอและพยาบาลให้มนสิการเรื่องพวกนี้ให้เป็น ก็จะช่วยคนไข้ได้มาก.  อย่างน้อยที่สุด หาคนที่เป็นอุจเฉททิฏฐิ มารับมอบฉันทะประจำโรงพยาบาลไว้เลยก็ได้.

เมตตาเหมาะกับใคร

เมตตาจะเหมาะกับคนโกรธง่าย... เห็นนักการเมืองก็หงุดหงิด, เห็นพ่อแม่ก็หงุดหงิด, ข้อความยาวหน่อยก็หงุดหงิด  เป็นต้น. แต่เป็นกรรมฐานที่ฝึกยากป...