วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2563

ปีติไม่ค่อยเกิด ก็ต้องน้อมใจบ่อยๆ

ปีติจะเกิด แรกๆ ต้องน้อมใจไปด้วย ฝืนยิ้มไปด้วยตอนอ่านตอนพิมพ์ ดู อรรถกถาปีตีสัมโพชฌงค์ ในโพชฌงค์บรรพ มหาสติปัฏฐานสูตร 😊
ทำตัวอย่างไร ได้ผลอย่างนั้น ทำตัวมีปีติบ่อยๆ 20 ปีผ่านไป ปีติก็เกิดง่าย ครับ ถ้าขี้เกียจฝึกบ่อยๆ ก็ไม่มีทางเกิดง่ายเลย 🧘

วันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

วิธีเริ่มต้นท่องจำด้วยตัวเองที่บ้าน สำหรับฆราวาส

เริ่มต้นท่องง่ายที่สุดคือ ไปท่องกับอาจารย์กรรมฐาน ที่เป็นผู้ทรงจำพระไตรปิฎกบาลีสืบๆกันมา. ถ้ายังหาไม่ได้จริงๆ ก็เลือกสูตรฉบับแปลมาสักฉบับนึง แล้วก็ท่องเช้ากลางวันเย็น (พระปฐมสังคายนาจารย์แนะนำให้เริ่มจาก ขุททกปาฐะ 9 บท). 

ทำในใจไว้เสมอว่า กำลังท่องจำบทกรรมฐานที่จะต้องนำมาประพฤติปฏิบัติ. ท่องไวๆ อย่ายานคางยืดยาดเสียเวลา.

เมื่อเริ่มจำได้ จะต้องฝึก วิธีเข้าใจทีละอักขระ บท พยัญชนะ นิรุต นิทเทส อาการ ตามหลักเนตติปกรณ์เพื่อให้ได้อัตถบท 6 ออกมา แล้วเอามาทำนัยะ 2 นัย 3  เพื่อให้ได้ สภาวะออกมา. 

ถ้าอย่างนี้ ขณะที่สวดก็จะแทงตลอดสภาวะไปด้วย โอกาสเข้าใจคลาดเคลื่อนก็จะน้อย เป็นการศึกษาพระไตรปิฎกที่ตรงตามตำรา แล้วก็จะเอามาปฏิบัติได้ง่ายขึ้นมากๆ.  แม้จะสวดเร็วแต่ก็เข้าใจไปด้วยในขณะที่สวดได้ (ต้องสวดทุกวันๆละหลายรอบ สวดทั้งวันทั้งคืน แต่ไม่สวดดัง สวดในใจ ไม่งั้นปากจะร้อนในได้).

วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

ความกตัญญู กตเวที เป็นมงคลชีวิตอย่างหนึ่ง

ความกตัญญู กตเวที เป็นมงคลชีวิตอย่างหนึ่ง เป็นสิ่งที่ทำให้ความดีงามของจิตใจการฝึกฝนพัฒนาจิตได้มีโอกาสเจริญรุ่งเรืองเติบโตก้าวหน้า.

การยิงแอดโฆษณา การปั่นยอดวิว YouTube ที่เป็นประโยชน์ 6 ก็มี ที่ไม่เป็นประโยชน์ 6 ก็มี

อยู่ที่คุณภาพของเนื้อหา (อัตถะ ธัมมะ นิรุต ปฏิภาน) ครับ ว่าจะ #ช่วยให้เกิดประโยชน์6 กะผู้เสพข้อมูลแค่ไหน 💕🧘 เนื้อหาบางอย่างมีประโยชน์เฉพาะตัวเองแต่ไม่มีประโยชน์กับคนอื่น บางอย่างมีประโยชน์เฉพาะกับคนอื่นไม่มีประโยชน์กับตนเอง เนื้อหาบางอย่างไร้สาระโดยสิ้นเชิง นั่งดูก็เสียเวลา อนาคตก็เอาไปใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เลย ยิ่งคนฟังไม่ฉลาดยิ่งสร้างความเสียหายหนักเข้าไปอีก พากันด่า พากันประทุษร้ายซึ่งกันและกัน พากันทำใจให้เสียหาย ไม่มีใครได้ประโยชน์เลย เพราะเห็นแก่ตัว เป็นต้น เนื้อหาบางอย่างมีประโยชน์เฉพาะในชาตินี้ เนื้อหาบางอย่างมีประโยชน์เฉพาะในอนาคต เนื้อหาบางอย่างสามารถทำให้ถึงพระนิพพานที่ไม่เกิดไม่ดับได้ด้วย.
ฉะนั้นการเผยแพร่โฆษณา จะดีไม่ดีไม่ได้อยู่กับการยิงแอ๊ด แต่อยู่ที่ว่าคนฟังจะได้ประโยชน์จาก content ๆมากแค่ไหน ได้ครบเลยไหม? อยู่ได้แค่บางอย่างแล้วเสียอย่างอื่นไปหมดเลย? บางทีเราก็ยอมเสียน้อย เพื่อที่จะเสียมากในอนาคต. อันนี้ต้องระวังไว้ให้ดีนะครับ การยิงแอดหลายๆอย่างที่เคยเห็นมันจะเป็นในทำนองนี้ 😊

วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

คำพูดออกมาจากทัศนคติ สัมมาวาจาออกมาจากสัมมาทิฏฐิ

ข้อปฏิบัติที่เหมาะสม ออกมาจากคำพูดที่เหมาะสม คำพูดที่เหมาะสม ออกมาจากการฝึกคิดด้วยทัศนคติที่เหมาะสม.

มรรคมีองค์ 8  มีสัมมาวาจาเป็นต้น มันออกมาจากสัมมาทิฏฐิ และสัมมาสังกัปปะ ถ้าไม่ฝึกคิดให้เหมาะสม พฤติกรรมคำพูดมันก็ไม่เหมาะสม การทรงจำพระธรรมคำสอน ช่วยได้มากในการที่จะพัฒนาตนเอง

เพราะเหตุนั้นบัณฑิตในสมัยโบราณ จึงสนับสนุนการท่องจำ การสวดสาธยายพระธรรมคำสอนทุกวัน เพื่อให้เราสามารถนำหลักธรรมคำสอนไปฝึกขัดเกลาทัศนคติ ความคิด คำพูด และการกระทำ ทุกๆวัน ให้เหมาะสมตามหลักสัปปุริสธรรม 7

ขอให้สรรพสัตว์จงมีสุข ผู้ฝึกตนทุกวันย่อมประสบสุขเป็นอันมาก และย่อมมอบความสุขให้คนอื่นๆได้ในทุกๆวัน

https://youtu.be/0fmo1SxG1rs

https://www.facebook.com/Johjai/videos/640397456371169/

วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2563

ถึงแม้จะมีทิฐิ ขอให้ทำสมาธิไปก่อน เพราะวิปัสสนาอาศัยอุปจาระ-อัปปนาสมาธิ เป็นจิตตวิสุทธิ

จะมีเทคนิคหรือไม่มีเทคนิคทำสมาธิ ตราบเท่าที่ยังมีทิฐิเจตสิกเกิด ทำอะไรก็เป็นศิลพตปรามาสได้หมดครับ.

กระทั่งที่ผมพิมพ์ หรือที่ทุกคนกำลังอ่านอยู่นี้ ก็เป็นศิลพตปรามาสได้ว่า "การพิมพ์อย่างนี้เท่านั้นจริงการพิมพ์อย่างอื่นเปล่า", "การอ่านอย่างนี้เท่านั้นดี การอ่านอย่างอื่นเปล่า".

เพราะว่าไม่ได้เห็นนามรูปนั้นๆตามข้อเท็จจริงของเขาว่า "จริงหรือเท็จอย่างไร ตามปัจจัยปัจจุบันจริงๆที่เขาอาศัยเกิดขึ้น".

เมื่อไม่เห็นสภาพธรรมตามความเป็นจริงอย่างนั้น จะมีเทคนิคทำสมาธิ หรือไม่มีเทคนิคทำสมาธิ ก็ยังมีศิลพตปรามาสทั้งนั้น.

ฉะนั้น อะไรที่จะทำให้เข้าสมาธิได้ง่าย จะให้เกิดฉันทะวิริยะจิตตวีมังสาได้ง่าย ก็ทำไปก่อนเลยครับ เพราะขณะได้อัปปนาฌานนั้น ไม่มีทิฐิเกิดเลย แล้วก็ได้จิตตวิสุทธิมา ก็มั่นใจได้ว่าทำวิปัสสนาแล้วจะเป็นวิปัสสนาแน่ๆ.

เมื่อทำสมาธิแล้ว สิ่งที่จะต้องแก้ไขคือการทำวิปัสสนาให้สมบูรณ์ต่างหาก อันนี้แหละถึงจะละทิฐิได้. บางคนทำวิปัสสนา ไม่เคยเห็นความเกิดดับอย่างรวดเร็ว แสนโกฏิขณะในลัดนิ้วมือ จริงๆเลย. ไม่เคยประจักษ์วิถีจิตจริงๆ ไม่เคยประจักษ์วิถีรูปจริงๆ ที่เป็นของจริงอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่แค่เรียนแล้วก็คิดเดาเอาในห้องเรียน แต่เห็นด้วยสมาธิที่เป็นจิตตวิสุทธิจริงๆ ตามที่วิสุทธิมรรค ทิฏฐิวิสุทธินิทเทส กล่าวไว้ว่า จิตตวิสุทธิ ได้แก่อุปจารฌานและอัปปนาฌาน.

บางคนเห็นเกิดดับจริงๆแล้วก็จริง แต่ก็มีนิวรณ์เกิดขั้นวิปัสสนา อันนี้ก็ไม่เป็นพลววิปัสสนาอีก เมื่อไม่เป็นพลววิปัสสนา ก็เรียกว่าวิปัสสนาภาวนาได้ไม่เต็มปากนัก เพราะปหานปริญญาเริ่มที่นี่.

จะเห็นได้ว่า ทิฏฐุปาทานทำให้เกิดศิลพตปรามาส ไม่ใช่เทคนิคทำให้เกิดทิฏฐิ เพราะเทคนิคเหล่านี้พระอริยะท่านก็ใช้กัน ในพระไตรปิฎกก็มี ในอรรถกถาก็มี. แต่พระอริยะ ไม่มีทิฐิเจตสิกเลย ฉะนั้นพระอริยะท่านใช้เทคนิคในการนั่งสมาธิ ก็ไม่มีสีลพตปรามาสอยู่ดีครับ.

กราบเรียนด้วยความเคารพรักและปรารถนาดีอย่างยิ่ง 😊

วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2563

ระลึกนามรูปย้อนชาติ เห็นกรรมก่อนตาย ข้ามสงสัยในกาล 3

ตามหลักอภิธรรม และตามที่ผู้ทำฌานและวิปัสสนาได้เห็น ท่านระบุว่า  

การที่จะเห็นกรรมได้ชัดเจน จะต้องระลึกชาติไปจนถึงในขณะจิตแรกที่เกิดในครรภ์พร้อมกับแยกนามรูปไปด้วย เพราะขณะเกิดในครรภ์นั้นเป็นผลของกรรมๆ เดียวชัดเจน แล้วระลึกถึงกรรมต้นเหตุของมันโดยย้อนไปที่วาระจิตสุดท้ายก่อนจะตาย จะเป็นสิ่งที่จิตรู้ก่อนตาย และเห็นกรรมที่ทำให้จิตรู้สิ่งนั้น กรรมที่ปรากฎก่อนตายในชาติก่อนๆนี้แหละ ถ้าเป็นกรรมดี จิตก่อนตายก็จะรู้สิ่งที่ดี และไปเกิดในภพภูมิที่ดีแน่นอน แต่ถ้าเป็นกรรมชั่ว ก็จะไปเกิดในภพภูมิที่เลวร้ายแน่นอน.

ส่วนผลของกรรมหลังจากขณะปฏิสนธิในครรภ์  จะกำหนดให้ชัดได้ยากมากๆ เพราะจะมีทั้งผลของกรรมดีและผลของกรรมชั่วเกิดพร้อมกันเยอะแยะไปหมด เช่นขณะที่ตารู้สีที่สวยๆด้วยผลของกรรมดี ขาอาจจะเน่าด้วยผลของกรรมชั่วอยู่ก็ได้ เป็นต้น มีผลของกรรมดีและชั่วเกิดพร้อมๆกันอย่างนี้เต็มไปหมด. ผู้ที่ไม่มีปัญญา ก็จะไม่สามารถแยกข้อเท็จจริงได้ว่าอันไหนเป็นผลของกรรมดี หรือ อันไหนเป็นผลของกรรมชั่ว จึงเกิดความเข้าใจผิดในเรื่องของกรรมได้ง่ายนะครับ. ท่านจึงแนะนำให้ระลึกนามรูปกลับไปดูขณะปฏิสนธิในครรภ์ และวาระจิตก่อนตาย เพื่อให้เห็นชัดเจนว่าไม่ว่ายังไงกรรมดีก็ให้ผลดี กรรมชั่วก็ให้ผลชั่วแน่นอน. แล้วพอกำหนดนามรูปลงปฏิจจสมุปบาทไตรลักษณ์ก็จะปรากฏอย่างชัดเจน. ด้วยเหตุอย่างนี้ ก็จะหมดความสงสัยในกาล 3 (กังขาวิตรณวิสุทธิ) ครับ.

นอกจากนี้ยังเป็นเหตุผลด้วยว่า ทำไมท่านจึงกล่าวไว้ในวิสุทธิมรรคว่า อภิธรรมเป็นวิปัสสนา และเป็นเหตุผลว่า ทำไมอภิธรรมจึงต้องแสดงปฏิสนธิขณะกับมรณาสันนวิถีไว้ด้วย. นอกจากนี้ ยังเป็นเหตุผลอีกว่า ทำไมท่านจึงแสดง บุพเพนิวาสานุสติญาณ กับจุตูปปาตญาณ ก่อนอาสวักขยญาณ ไว้ในพระไตรปิฎกหลายที่มากๆ. อีกทั้งในปฏิสัมภิทามรรคมาติกา ยังใช้ ปจฺจย ศัพท์  ทั้งในปัจจัยปริคคหญาณ และปุพเพนิวาสานุสสติญาณ อีกด้วย.

เมตตาเหมาะกับใคร

เมตตาจะเหมาะกับคนโกรธง่าย... เห็นนักการเมืองก็หงุดหงิด, เห็นพ่อแม่ก็หงุดหงิด, ข้อความยาวหน่อยก็หงุดหงิด  เป็นต้น. แต่เป็นกรรมฐานที่ฝึกยากป...