วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2559

อัฏฐสาลินีว่า "กาลเป็นบัญญัติ"

อัฏฐสาลินีว่า "กาลเป็นบัญญัติ"

เราก็ต้องเอามาวิเคราะห์ว่าเป็นบัญญัติอะไรในอภิธัมมัตถสังคหะ?

พบว่าเป็นอัตถบัญญัติ (บัญญัติที่จิตรูปปรมัตถ์แล้วคิดบัญญัตินี้ขึ้น) ประเภทกาลบัญญัติ (ปริเฉท 8).

เมื่อทราบแล้ว เราก็ต้องมาพิจารณาวิถีที่ปัจจัยปัจจยุปบันเป็นไปว่า คิดกาลบัญญัตินี้ขึ้นมาจากปรมัตถ์อะไร? อย่างไร?

ก็จะพบว่า อัตถบัญญัติ เริ่มถูกคิดขึ้นทาง อัตถัคคหนตทนุวัตติกะมโนทวารวิถี, และคิดอย่างซับซ้อนมาก ในสุทธมโนทวาร. (ปริเฉท 4)

วาระหนึ่งรับปรมัตถ์ที่ถึงอุปปันนะก่อนเป็นอารมณ์ อีกวาระรับปรมัตถ์ที่ถึงอุปปันนะทีหลังเป็นอารมณ์ วาระถัดมารู้อัตถบัญญัติคือความต่างกันของปรมัตถ์ทั้งสองที่อุปปันนะก่อน(อตีตุปปันนะ)และอุปปะนนะหลัง(ปัจจุปันนะ)จากกัน (ธัมมสังคณี ม่าติกา อุปปันนติกะ ไม่มีสอนในห้อง แต่มีในตำราบาลีหลายแห่ง เช่น ปริเฉท 8, อัฏฐสาลินี, อุปปันนะ 4, อุปปันนะ 8 เป็นต้น).

ฉะนั้นกาลบัญญัติ ก็ถูกคิดขึ้นจาก ปรมัตถ์ที่อุปปันนะก่อนหลังกัน (อตีตติกะ) เช่น อดีตกว่า > อดีต > ปัจจุบัน > อนาคต > อนาคตกว่า.

อนึ่ง เรื่องที่วิเคราะห์มานี้ สามารถเอาไปใช้หาคำตอบอื่นได้อีกว่า : "วิปัสสนารู้อตีตุปปันนะได้หรือไม่?", "อนุสัยเกิดหรือไม่เกิด?", "วิปัสสนารู้บัญญัติได้หรือไม่?"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รับตอบปัญหาธรรมะ ตามพระไตรปิฏก อรรถกถา ฏีกา
ท่านสอบถาม/แสดงความคิดเห็น/บอกข้อบกพร่องของบทความได้ที่ facebook: ตอบปัญหาธรรมะลึกซึ้ง หรือ ช่องตอบกลับข้างล่างนี้.