วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2558

[(ทุกข์>ทุกขอริยสัจจ์>ทุกขเวทนา)=ปรมัตถ์] ≠ (อัตถบัญญัติ=ทุกขลักษณะ) (อธิบายใหม่อีกครั้ง)

ทุกข์ คือ ขันธ์ 5 ทั้งหมด ทั้งโลกิยะและโลกุตตระ.
ทุกขอริยสัจ คือ โลกิยขันธ์ 5 ทั้งหมด.
ทุกขลักษณะ คือ ลักษณะบีบคั้นตั้งอยู่ไม่ได้ของโลกิยขันธ์ 5 ที่จิตประมวลขึ้นจากความเป็นไปของขันธ์ 5 ทั้งโลกิยะและโลกุตตระ.
ทุกขเวทนา คือ ส่วนหนึ่งของโลกิยขันธ์ 5 (เป็นหนึ่งในสังขารขันธ์).
โลกิยขันธ์ 5 คือ ขันธ์ 5 ที่ตัณหายังไปติดใจได้อยู่ทั้งหมด.
โลกุตตรขันธ์ 5 คือ ขันธ์ 5 ที่ตัณหารู้ไม่ถึง รับไม่ได้.

-โลกิยทุกข์ ทุกขอริยสัจ เป็นอย่างเดียวกัน
-โลกิยทุกข์ ทุกขอริยสัจ ทุกขเวทนา เป็นปรมัตถ์ ต้องทำปริญญา 3
-ทุกขลักษณะ เป็นอัตถบัญญัติ ต้องทำญาตปริญญาอย่างเดียว ไม่ต้องทำตีรณปหานปริญญา. แต่เวลาทำตีรณปหานปริญญาในทุกข์ ก็ต้องใช้ทุกขลักษณะนี่แหละกำหนดทุกข์ คือ จะเกิดการเบื่อหน่ายทุกข์ ก็ต้องอาศัยทุกขลักษณะ.
-โลกุตตรขันธ์ ไม่ต้องทำตีรณปหานปริญญา ทำญาตปริญญาอย่างเดียว เพราะตัณหาไม่รู้จัก ไม่สามารถยึดติดให้มีภพชาติต่อๆ ไปได้.

ในพระไตรปิฎก จะมีใช้หลากหลายมากกว่านี้อีก ให้สังเกตบริบทเอา หรือ ถ้าชอบความรวดเร็ว ก็ลัดไปอ่านอรรถกถาก็ได้ ถ้าตรงนั้นท่านไม่เคยอธิบายไปแล้ว ก็จะมีบอกไว้ ครับ, แต่ถ้าไม่บอกไว้ แสดงว่าท่านอธิบายไว้ในที่อื่นแล้ว ก็ต้องหาเอา.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รับตอบปัญหาธรรมะ ตามพระไตรปิฏก อรรถกถา ฏีกา
ท่านสอบถาม/แสดงความคิดเห็น/บอกข้อบกพร่องของบทความได้ที่ facebook: ตอบปัญหาธรรมะลึกซึ้ง หรือ ช่องตอบกลับข้างล่างนี้.