ตอนต้นของสูตร แสดงเหตุปรารภให้พระพุทธเจ้าตรัสตัวสูตรแท้ๆ ที่แสดงกับพระอนุราธะ ครับ.
ซึ่งตอนต้นนั้น อรรถกถาบอกไว้ประมาณว่า ทั้งอัญญเดียรถีย์ และ พระอนุราธะ ล้วนไม่ได้รู้จริงทั้งคู่ พระอนุราธะพูดเพื่อให้ตรงกันข้ามกับเดียรถีย์, เดียรถีย์เองก็แค่พูดเพื่อเอาชนะ.
ฉะนั้น พระพุทธเจ้า ทรงอาศัยเหตุที่พระอนุราธะกำลังสนใจในเรื่อง "พระตถาคตจะเกิดอีกไหม?" นี่เองมาแสดงวิปัสสนา ให้พระอนุราธะบรรลุธรรม.
พอแสดงธรรม จึงแสดงการเพิกสัตว์บุคคล ให้เห็นว่าไม่มีสัตว์บุคคลอยู่ตรงไหนเลย (เพราะการเกิดชาติใหม่ เว้นศาสนาพุทธแล้ว ศาสนาอื่น ถือว่าเป็นสัตว์ เป็นบุคคลไปเกิด, การเกิดของคนนอกศาสนานั้น ไม่ใช่เพียงแต่ธาตุขันธ์ที่ถึงพร้อมด้วยปัจจัยและธาตุขันธ์ที่หมดปัจจัยอย่างที่อธิบายในปัจจยปริคคหญาณขึ้นไปตามหลักปฏิจจสมุปบาทในศาสนาพุทธ) ทรงทำลายสักกายะทิฏฐิ 20 แสดงให้เหลือเพียงขันธ์ 5 ก่อน, ต่อมาก็ยกขันธ์ 5 เพียวๆ ที่ไม่มีความเข้าใจว่ามี ว่าเป็น สัตว์บุคคลอยู่แล้ว ที่กำลังเป็นอารมณ์ของพระอนุราธะนั่นแหละ สู่ไตรลักษณ์ ครับ.
อนึ่ง สูตรนี้ฉบับสยามรัฐแปลผิดไปจากบาลี. ฉบับมหาจุฬา(ลิงก์)แปลตรงบาลี ครับ. แต่โดยอรรถะ ก็ความหมายเดียวกัน ครับ. คือ ในพระไตรปิฎก ถ้าพวกนอกศาสนามีการพูดถึงการเกิดการตายข้ามภพชาติ เขาก็พูดมาจากสักกายทิฏฐิสหคตจิตกัน ครับ.
เป็นอันจบสูตรนี้, รายละเอียดอ่าน อรรถกถาที่ลิงก์นี้:
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=17&i=208
สาธุครับ
ตอบลบ